You are here: Home News Eco-Industry

Eco-Industry

The National Innovation Agency (NIA) has developed innovation to support eco-industries. The innovation was categorized into 2 types; Clean Industry Platform and Eco- Products Platform. There is a large amount of financial support at about 10,658,800 Baht, which leads to capital investment at about 118,540,000 Baht. It is expected that within the next 3 years, there would be 421new job vacancies as a result of the eco-industries innovative initiated by NIA.

อุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ (Eco-Industry)

อุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ (Eco-Industry) หมาย ถึง สถานประกอบการอุตสาหกรรมในระดับต่างๆ ที่มีระบบอำนวยให้หน่วยกิจกรรมต่างๆ ในองค์กรสามารถบรรลุถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืน (sustainability) ร่วมกัน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ (economy) และระบบนิเวศ (ecology) โดยอาศัยการสร้างระบบความสัมพันธ์แบบพึ่งพาในเชิงวัสดุและพลังงาน และจะต้องอาศัยการผูกโยงความสัมพันธ์ระหว่างกิจการที่มีความสอดคล้องกันใน เชิงผลพลอยได้ของผลิตภัณฑ์

เป้าหมายร่วมของการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ ของ สนช. คือ การให้ความสำคัญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของโลก เช่น สภาวะโลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีสาเหตุจากปรากฏการณ์ เรือนกระจก (green house effect) และการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน ที่เป็นกระแสหลักของประชาคมโลกปัจจุบัน

ดังนั้น เพื่อตอบสนองเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น สนช. จึงได้พัฒนานวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศใน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านอุตสาหกรรมสะอาด (Clean Industry Platform) และด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Products Platform) นอกเหนือจากอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ และธุรกิจนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ ที่ได้ดำเนินการผลักดันจนเป็นโครงการนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของ สนช. แล้ว

ผลการดำเนินงานภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐ นิเวศในปีงบประมาณ 2553 คือ การสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมจำนวน 15 ราย ใน 11 จังหวัดทั่วประเทศ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 10,658,800 บาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 118,540,000 บาท โดยคาดว่าอีก 3 ปีข้างหน้าจะสามารถสร้างรายได้จำนวน 1,642.76 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่ จำนวน 421 คน

ในส่วนผลการดำเนินงานเด่นอื่นๆ ได้แก่
• การจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการนำร่องเพื่อผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชน" ระหว่าง สนช. ร่วมกับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ผ่านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทน ทั้งระดับต้นแบบและการขยายผลสู่การสร้างธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทน รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาสนับสนุนการดำเนินงานของ สนผ. ในการบริหารจัดการโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกจากสิ่งของเหลือใช้ ให้เกิดประโยชน์ และการให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการและบริษัทจัดการพลังงานในการจัดทำข้อเสนอ โครงการต่อคณะทำงานโครงการฯ และ สนพ. ในการพิจารณาอนุมัติเงินสนับสนุนแก่โครงการต่อไป

ผลการดำเนินงานภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศในปีงบประมาณ 2554 สนช. ได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ จำนวนทั้งสิ้น 38 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 26,186,874 บาท ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 1,012,730,156 บาท

โดยผลการดำเนินงานเด่น ได้แก่
• โครงการนำร่องเพื่อผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชน ซึ่งได้คัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินโครงการระบบผลิตไฟฟ้าได้ จำนวน 4 ระบบ และระบบผลิตความร้อนได้ จำนวน 8 ระบบ โดยกำลังดำเนินการก่อสร้างและทดสอบประสิทธิภาพของระบบ นอกจากนี้ สนช. อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโครงการนวัตกรรมในด้านธุรกิจชีวมวล (Biomass Business Platform) ซึ่งนับเป็นการต่อยอดและยกระดับผลการดำเนินโครงการนำร่องฯ ดังกล่าว

• ด้านอุตสาหกรรมสะอาด (Clean Industry Platform)
"อุตสาหกรรมสะอาด" เป็นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงปรับปรุงผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต การบริการ และการบริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ และเปลี่ยนเป็นของเสียน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังเน้นการลดการใช้สารเคมีอันตราย ลดของเสียและของเหลือใช้ รวมไปถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ หรือการดัดแปลงเพื่อ ให้เกิดประโยชน์อย่างอื่น จึงเป็นทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อมและลดค่าใช้จ่ายในการผลิตไปพร้อมๆ กัน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาพลังงานทดแทนจากของเสีย (waste to energy) การจัดการของเสียอย่างถูกวิธี (waste management) รวมถึงอุปกรณ์และกระบวนการที่ก่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน (energy saving) นอกจากนี้ สนช. ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดทำ "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านพลังงานทดแทน ของไทย" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนของผู้ประกอบการไทย ตลอดจนร่วมดำเนินการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระดับต้นแบบเพื่อพัฒนา เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนของประเทศ

สนช. ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในด้านอุตสาหกรรมสะอาด ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพลังงานทดแทนจากของเสีย การจัดการของเสียอย่างถูกวิธี การพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก อาทิ แสงอาทิตย์ ลม น้ำ เป็นต้น รวมถึงอุปกรณ์หรือกระบวนการที่ก่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรด้านพลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งในภาวะที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิ อากาศ การรู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีสะอาดที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมจึงเปรียบเสมือน เป็นการช่วย ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน นอกจากนี้ สนช. ยังได้ร่วมมือกับกลุ่มพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มธุรกิจเอกชนและสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คำปรึกษาทางเทคโนโลยีและประเมินความเป็นไปได้ทาง ธุรกิจของโครงการนวัตกรรมในกลุ่มเทคโนโลยีสะอาด และผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม

ภายใต้ "บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการด้านพลังงานทดแทน ของไทย" สนช. ได้จัดทำโครงการการผลิตพลังงานทดแทนจากชีวมวลในระดับชุมชนด้วยเทคโนโลยีแก๊ส ซิฟิเคชั่น เป็นโครงการนำร่อง จำนวน 11 แห่ง ในรูปแบบของเงินช่วยเหลือ (subsidize) ให้กับผู้ประกอบการที่สนใจจะซื้อหรือติดตั้งระบบ โดยแบ่งได้ 2 รูปแบบ คือ ระบบผลิตความร้อนทดแทนก๊าซหุงต้ม (LPG) จำนวน 8 แห่ง และโรงงานไฟฟ้าชีวมวลระดับชุมชน จำนวน 3 แห่ง รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 46,215,240 บาท

ในปีงบประมาณ 2553 สนช. ได้ร่วมรังสรรค์โครงการนวัตกรรมร่วมกับภาคเอกชนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 9,014,300 บาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 84,985,000 บาท อาทิ
• โครงการระบบการผลิตก๊าซชีวภาพจากสิ่งปฎิกูล
• โครงการหลอดแก้วรับความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์
• ครงการเครื่องรับซื้อขยะขวดพลาสติกรีไซเคิล
• โครงการต้นแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำสำหรับชุมชน

เครือข่ายความร่วมมือ
• สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน
• กลุ่มผู้ประกอบการด้านพลังงานทดแทน

ในปีงบประมาณ 2554 สนช. ได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม จำนวนทั้งสิ้น 21 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 16,361,285 บาท ซึ่งก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 758,446,822 บาท อาทิ
• โครงการ “พี.เอส.เจ….ระบบควบคุมแสงสว่างและประหยัดพลังงาน”
• โครงการ “ทีที...เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพสำหรับขยะชุมชน”
• โครงการ "C-TAX…ชุดกรองแบบบายพาสสำหรับยืดอายุน้ำมันหล่อลื่น”
• โครงการ “ระบบผลิตก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์เพื่อผลิตพลังงานร่วม สำหรับผลิตไฟฟ้า ความร้อน และความเย็น”

• ด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-Products Platform)
"ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ด้วย การประเมินวัฎจักรชีวิต เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ เทคโนโลยีการนำกลับมาใช้ใหม่ และการออกแบบเชิงเศรษฐนิเวศ เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเชิง เศรษฐกิจ อันเป็นกระบวนการที่ผนวกแนวคิดด้านเศรษฐศาสตร์และด้านสิ่งแวดล้อมเข้าไปใน ขั้นตอนการออกแบบ การผลิต การนำไปใช้ และการกำจัดหลังการใช้งาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในอนาคต

สนช. ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศ โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลพลอยได้ในอุตสาหกรรมไม้ประกอบ กระดาษ สิ่งทอ และยางพารา เป็นหลัก เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากสภาพการขยายตัวของประชากรทั่วโลกในปัจจุบัน ทำให้เกิดการบริโภคสินค้า บริการ และการประกอบกิจกรรมต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมต่อทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม การขาดแคลนทรัพยากร และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือยเกินขีดจำกัด ดังนั้น การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นทางเลือกหลัก ที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคให้ความสนใจและให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก

ในปีงบประมาณ 2553 สนช. ได้ร่วมรังสรรค์โครงการนวัตกรรมร่วมกับภาคเอกชนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 1,644,500 บาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 33,555,000 บาท ได้แก่
•โครงการ "Garmento" แผ่นบอร์ดและเฟอร์นิเจอร์จากเศษผ้า
•โครงการ "Hemp Thai" ผ้าทอเส้นใยกัญชงอินทรีย์แบบยกดอกสำเร็จรูป
•โครงการแคลเซียมคาร์บอเนตเคลือบแป้งเพื่อลดการใช้เยื่อในอุตสาหกรรมกระดาษ
•โครงการ "PEC-TEM" กระเบื้องมุงหลังคาเพื่อสิ่งแวดล้อม
•โครงการ "ธนิสร์"ขลุ่ยไทยแนวใหม่จากไม้ประกอบพลาสติก

ในปีงบประมาณ 2554 สนช. ได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม จำนวนทั้งสิ้น 7 โครงการ รวมเป็นวงเงินสนับสนุนทั้งสิ้น 3,290,589 บาท ก่อให้เกิดมูลค่าการลงทุน 102,769,000 บาท อาทิ
• โครงการ “BMC จากขวดเพทที่ใช้แล้วสำหรับผลิตโคมไฟรถยนต์”
• โครงการ “ไบโอเฮมพ์ไทย...พื้นรองเท้ากัญชงจากวัสดุเหลือทิ้ง”
• โครงการ “JURA-STONE…กระเบื้องเซรามิกปูพื้นเพื่อสิ่งแวดล้อม”
• โครงการ “ระบบกำจัดมอดในของเล่นจากไม้ยางพาราด้วยคลื่นไมโครเวฟ”
• โครงการ “TOFFEN…พาเลทพลาสติกรีไซเคิลน้ำหนักเบาเพื่อการส่งออก”

Source: http://www.nia.or.th/?section=project&page=project_eco

Document Actions